หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1  ชีวิตของพืชและสัตว์  



1) ปัจจัยที่มีผลต่อการดำรงชีวิตของพืช
                พืชเป็นสิ่งมีชีวิตที่เราสามารถพบได้ทุกหนทุกแห่ง พืชสามารถเจริญเติบโตและดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยอาศัยสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิต นักเรียนทราบไหมว่าพืชต้องการสิ่งใดในการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโต
ปัจจัยสำคัญที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของพืชมี 4 ประการ ได้แก่ อาหาร น้ำ อากาศ และแสงแดด
  1. อาหาร  :  พืชต้องการธาตุอาหารที่มีอยู่ในดิน  ได้แก่  แร่ธาตุต่าง ๆ เช่น ไนโตรเจน โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส เป็นต้น เพื่อใช้ในการเจริญเติบโต และทำให้พืชแข็งแรง โดยรากพืชจะดูดซึมแร่ธาตุเหล่านี้ไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของลำต้น
  2. น้ำ         :  พืชต้องการน้ำในการดำรงชีวิต เพื่อช่วยละลายแร่ธาตุในดิน ทำให้รากพืชดูดซึมและลำเลียงแร่ธาตุเหล่านั้นไปยังส่วนต่าง ๆ ของต้นพืชได้ นอกจากนี้ ต้นพืชยังต้องการน้ำเพื่อใช้ในการสร้างอาหารอีกด้วย
  3. อากาศ  :  พืชต้องการอากาศในการดำรงชีวิต เพราะต้นพืชจำเป็นต้องใช้แก๊สออกซิเจนในการหายใจเช่นเดียวกับคนและสัตว์ต่าง ๆ นอกจากนี้พืชต้องการแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อใช้ในการสร้างอาหารด้วย
  4. แสงแดด  :  พืชเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความพิเศษแตกต่างจากคนและสัตว์ คือ พืชสามารถสร้างอาหารเองได้ เมื่อพืชได้รับแสงแดด แสงแดดจะกระตุ้นให้พืชสร้างสารสีเขียว เรียกว่า คลอโรฟิลล์ ทำให้พืชสร้างอาหารได้และอาหารนี้จะถูกส่งไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของลำต้น
วิดีโอประกอบการสอน
ปัจจัยในการเจริญเติบโตของพืช

ปัจจัยในการเจริญเติบโตของพืช



2) ปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของสัตว์
                สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องการอาหาร  น้ำ  และอากาศ  เพื่อใช้ในการดำรงชีวิต เช่นเดียวกับพืช 
     -     อาหาร  สัตว์ต่าง ๆ ต้องกินอาหารเพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโตและดำรงชีวิตอยู่ได้ สัตว์แต่ละชนิดจะกินอาหารแตกต่างกัน สัตว์บางชนิดกินพืชเป็นอาหาร สัตว์บางชนิดกินสัตว์ด้วยกันเองเป็นอาหาร    
และสัตว์บางชนิดกินทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร ถ้าสัตว์ต่าง ๆ ไม่ได้กินอาหารเป็นเวลานาน ๆ ก็จะตายในที่สุด
o     ม้าลายกินหญ้าเป็นอาหาร
o     เสือกินสัตว์อื่นเป็นอาหาร
o     นกบางชนิดกินทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร
    -      น้ำ  สัตว์ทุกชนิดต้องการน้ำในการดำรงชีวิตสัตว์ต้องกินน้ำเพื่อให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบของร่างกาย ถ้าขาดน้ำเป็นเวลานาน ๆ สัตว์ก็จะตาย
    -      อากาศ  สัตว์ทุกชนิดต้องการอากาศหายใจ เพื่อให้ดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะแก๊สออกซิเจนที่มีอยู่ในอากาศมีความจำเป็นต่อร่างกายของสัตว์ สัตว์ที่อยู่บนบกจะหายใจโดยใช้อากาศที่อยู่รอบตัว ส่วนสัตว์ที่
อยู่ในน้ำจะหายใจโดยใช้แก๊สออกซิเจนที่มีอยู่ในน้ำ
      สัตว์แต่ละชนิดกินอาหารแตกต่างกัน ซึ่งสามารถจำแนกสัตว์ได้ตามลักษณะอาหารที่กินได้ 3 ประเภท คือ
1.   สัตว์กินพืช  เช่น  ม้า วัว ควาย
2.   สัตว์ที่กินสัตว์อื่น  เช่น  เสือ  จระเข้  นกกระจอก
3.   สัตว์ที่กินทั้งพืชและสัตว์อื่น  เช่น เป็ด ไก่   แมว








1)  การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืช
       พืชเป็นสิ่งมีชีวิตจึงมีการตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้พืชแต่ละชนิดมีการตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน
          สิ่งต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคน สัตว์ และพืช เรียกว่า สิ่งเร้า
พืชแต่ละชนิดมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าแตกต่างกัน การตอบสนองต่อสิ่งเร้า ช่วยให้พืชมีชีวิตรอดอยู่ได้ สิ่งเร้าที่พืชมีชีวิตรอดอยู่ได้ สิ่งเร้าที่พืชมีการตอบสนองมีหลายประการ เช่น
o    การตอบสนองต่อแสง
          พืชจะมีการตอบสนองต่อแสง โดยมีการเจริญเติบโตโน้มเข้าหาแสง เพราะพืชส่วนใหญ่ต้องการแสงในการสร้างอาหารนอกจากนี้พืชบางชนิด เช่น ดอกพุดตานจะเปลี่ยนสีเมื่อได้รับแสงแดดมากหรือน้อยแตกต่างกันใน 1 วัน ดอกคุณนายตื่นสายจะบานเมื่อได้รับแสง ดอกทานตะวันจะหมุนดอกตามดวงอาทิตย์เพื่อให้ได้รับแสงอย่างเพียงพอ เป็นต้น
o    การตอบสนองต่อการสัมผัส
         พืชบางชนิดมีการตอบสนองต่อการสัมผัส เช่น ผักกระเฉด ไมยราบ จะหุบใบเมื่อถูกสัมผัสเพื่อป้องกันอันตราย เป็นต้น
นอกจากนี้ พืชบางชนิดมีการตอบสนองต่อสัมผัส เพื่อดักจับแมลงเป็นอาหาร เช่น การหอยแครง หม้อข้าวหม้อแกงลิง เป็นต้น
o    การตอบสนองต่ออุณหภูมิ
        อุณหภูมิของอากาศมีผลต่อการตอบสนองของพืช เช่น เมื่อถึงฤดูหนาว ต้นไม้บางชนิด เช่น ต้นสัก ต้นรัง จะสลัดใบทิ้ง เพื่อลดการสูญเสียน้ำ และจะแตกใบใหม่เมื่ออากาศอบอุ่น

2) การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสัตว์
   สัตว์ต่าง ๆ มีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าหลายประการ เช่น
o    การตอบสนองต่อแสง
       สัตว์แต่ละชนิดมีการตอบสนองต่อแสงแตกต่างกัน สัตว์บางชนิดจะหนีแสง เช่น ไส้เดือนดิน ค้างคาว สัตว์บางชนิดเข้าหาแสง เช่น แมลงเม่า สัตว์บางชนิดออกหากินในเวลาเช้า และกลับที่อยู่อาศัยในเวลา
เย็น เช่น กา นกกระจอก เป็นต้น
o    การตอบสนองต่ออุณหภูมิ
       สัตว์แต่ละชนิดมีการตอบสนองต่ออุณหภูมิแตกต่างกัน เช่น ในช่วงฤดูหนาวเมื่ออุณหภูมิลดต่ำลง สัตว์บางชนิดจะอพยพย้ายถิ่น เช่น ฝูงนกนางแอ่นอพยพจากถิ่นที่อยู่เดิม เพื่อหาแหล่งถิ่นที่อยู่ใหม่ที่อบอุ่นกว่าและอาหารอุดมสมบูรณ์ เมื่อฤดูหนาวผ่านพ้นไป ก็จะบินกลับมายังถิ่นที่อยู่เดิม
                -  ช่วงที่มีสภาพอากาศร้อน อุณหภูมิสูงสัตว์บางชนิด เช่น สุนัขจะระบายความร้อนโดยการหอบหายใจเพื่อให้น้ำระเหยออกมาทางปาก ส่วนแมวจะเลียอุ้งเท้า เพื่อเป็นการระบายความร้อน
                -  ช่วงที่มีสภาพอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำ สัตว์เลื้อยคลาน เช่น งู กิ้งก่า จิ้งเหลน เป็นต้น ต้องอาศัยพลังงานความร้อนจากแสงแดดทำให้ร่างกายอบอุ่น จึงออกมาผึ่งแดด
o    การตอบสนองต่อสัมผัส
        สัตว์มีการตอบสนองต่อสัมผัสต่างกัน สัตว์บางชนิด เมื่อถูกสัมผัส จะตอบสนองเพื่อเป็นการป้องกันอันตราย เช่น กิ้งกือม้วนตัว หอยหดตัวเข้าในเปลือก เต่าหดหัวและขาเข้าในกระดอง อึ่งอ่างพองตัวให้
ใหญ่ขึ้น ปลาปักเป้าพองตัวให้หนามตั้งขึ้น เป็นต้น
      ความรู้เกี่ยวกับการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืชและสัตว์ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ใช้จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับพืชที่ปลูกหรือสัตว์ที่เลี้ยงไว้
                 -   ต้นทานตะวันชอบแสง ควรปลูกไว้กลางแจ้ง
                 -   สุนัขจะเห่าคนแปลกหน้า เราจึงเลี้ยงสุนัขไว้เฝ้าบ้าน


วิดีโอประกอบการสอน
การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสัตว์

สิ่งเร้ากับการเปลี่ยนแปลง 







 ประโยชน์ของพืชและสัตว์
                พืชและสัตว์มีประโยชน์ต่อคนมากมาย คนนำพืชและสัตว์มาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น
         -     เป็นอาหาร
         -     สร้างที่อยู่อาศัย
         -     ทำเครื่องนุ่งห่ม
         -     ทำยารักษาโรค
เป็นอาหาร  อาหารที่คนกินเป็นอาหารได้มาจากพืชและสัตว์ต่าง ๆ
         อาหารจากพืช ได้จากส่วนต่าง ๆ ของพืช เช่น ข้าว ผักคะน้า ดอกแค มันสำปะหลัง มะเขือเทศ เป็นต้น   อาหารจากสัตว์ ได้แก่ เนื้อ นม และไข่ของสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว นมวัว นมแพะ ไข่ไก่  ไข่เป็ด เป็นต้น
ทำที่อยู่อาศัย
       ลำต้นของพืชบางชนิดนำมาใช้ในการก่อสร้างบ้านเรือนได้ เช่น สัก หวาย ไผ่ เป็นต้น ส่วนพืชบางชนิดใบมีความเหนียวนำมาเย็บติดกันเป็นตับใช้มุงหลังคาได้ เช่น ใบจาก ใบตองตึง เป็นต้น
ทำเครื่องนุ่งห่ม
       เส้นใยจากลำต้นหรือใบพืชบางชนิดนำมาใช้ทอเสื้อผ้าได้ เช่น ฝ้าย ลินิน สับปะรด เป็นต้น ส่วนขน เส้นใย และหนังของสัตว์บางชนิดใช้ทำเครื่องนุ่งห่มได้ เช่น ขนแกะ ใยไหม หนังวัว เป็นต้น
ทำยารักษาโรค
       พืชบางชนิดมีคุณสมบัติเป็นสมุนไพรรักษาโรคต่าง ๆ เช่น ว่านหางจระเข้ ขิง ข่า ตะไคร้ กะเพรา ขมิ้น เป็นต้น
             -      มะนาว แก้อาการคันคอขับเสมหะ
             -      ขิง  ลดอาการจุกเสียดท้องไล่ลม
             -      กระเทียม  รักษากลากเกลื้อน
             -      ตะไคร้  แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด
             -      พริกไทย ช่วยการไหลเวียนโลหิต
             -      หอมแดง  แก้หวัด คัดจมูก แก้ไข้ ขับลม
             -      มะกรูด ขับลมในลำไส้ แก้ลม จุกเสียด
             -      ข่า  ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเดิน
             -      กระชาย  เป็นยาบำรุงหัวใจ ขับปัสสาวะ
             -      ใบบัวบก  แก้อาการช้ำใน
             -      มะระขี้นก แก้หวัด แก้ไอ

             -      ทับทิม ขับพยาธิ รักษาบิด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น